5 อาหารที่มีน้ำตาลสูงปรี๊ด ทานมากไปอาจไม่ดีอย่างที่คิด
หลายคนจะรู้กันดีว่าทานน้ำตาลมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อสุขภาพ หากทานน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา สามารถก่อให้เกิดโรคสารพัด ทั้งโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจ ปวดศีรษะ ไมเกรน สิว ผื่น หรือ ตกกระ ทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจในการทานอาหารแนวเฮลตี้กันมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สวยงาม แต่…เชื่อหรือไม่ มีอาหารเฮลตี้ที่เราคิดว่าดีต่อสุขภาพ กลายเป็นอาหารมีน้ำตาลมากกว่าที่คิด หากทานมากเกินพอดี อาจนำพาโรคต่าง ๆ ตามมาได้เช่นกัน อาหารที่ดังกล่าวมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. โยเกิร์ต สแน็คบาร์ กราโนล่า
ใครจะคิดว่าอาหารสุขภาพพื้นฐาน หาซื้อง่าย ทานสะดวก และให้พลังงาน อย่าง โยเกิร์ต จะอยู่ในรายการอาหารที่แอบมีน้ำตาลสูงใช่ไหม แต่ไม่ใช่ทุกยี่ห้อเสมอไป เมื่อจะเลือกซื้อควรอ่านฉลากบนบรรจุภัณฑ์ให้ดี หรือถ้าไม่มั่นใจ เลือกทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่มีผลไม้เชื่อม ผลไม้รสหวานใด ๆ เป็นส่วนผสมจะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำตาลในผลไม้เหล่านั้น รวมไปถึงเมื่อจะเลือกซื้อสแน็คบาร์ และกราโนล่าเช่นกัน ที่ควรสังเกตและอ่านฉลากก่อนซื้อเสมอ เพราะอาจมีน้ำตาลมากกว่าที่คิด
2. ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป
ข้าวโอ๊ต คือ ธัญพืชที่ถูกจัดให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปชนิดพร้อมดื่ม หรือข้าวโอ๊ตชนิดชงบรรจุซองบางยี่ห้อ แอบมีน้ำตาลสูงกว่า 14 กรัม / ซอง เลยทีเดียว จึงสำคัญมากที่ควรจะอ่านฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ดีก่อนซื้อ หรือเลือกซื้อข้าวโอ๊ตธรรมดาแล้วนำไปปรุงเองดีกว่า หากไม่ชอบขั้นตอนในการทำบ่อย ๆ อาจใช้วิธีนำข้าวโอ๊ตผสมกับนมสด ปริมาณ 1 : 1 แช่ค้างคืนไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้าวโอ๊ตนุ่มฟูพร้อมรับประทานในมื้อเช้า หรือในมื้ออื่น ๆ ต่อไป โดยเลือกทานได้ทั้งแบบกินเย็นหรืออุ่นร้อน ยอมเสียเวลานิดหน่อยแต่สามารถทานได้อย่างสบายใจ เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำตาลที่แถมมากับอาหาร (ไม่) สุขภาพ
3. ผลไม้แห้ง
เมืองไทยมีผลไม้ให้กินตามฤดูกาลตลอดปี ซึ่งผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ดีต่อสุขภาพ แต่ในขณะเดียวกัน ผลไม้เป็นแหล่งของน้ำตาลธรรมชาติ โดยเฉพาะผลไม้ตากแห้ง รวมไปถึงผลไม้หั่นพร้อมรับประทานที่มีปริมาณน้ำตาลเกินคาดเลยล่ะ ฉะนั้น เลือกรับประทานผลไม้ที่รสไม่หวานจัด หรือทานแต่พอดี หักห้ามใจให้เก่ง เพราะผลไม้ไทยรสอร่อย อาจทำให้หยุดทานได้ยาก
4. สมูทตี้
สมูทตี้ คือ น้ำผัก น้ำผลไม้ปั่น แน่นอนว่าย่อมดีกว่าน้ำอัดลม หรือ น้ำหวานอื่น ๆ แต่สมูทตี้ก็มีน้ำตาลผสมในรูปแบบของน้ำเชื่อม อีกทั้งในผักผลไม้มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่จำนวนมากอยู่แล้ว ยิ่งบางร้านใส่น้ำเชื่อมแบบไม่หวง ไม่กลัวเปลืองน้ำตาล อาจทำให้ได้น้ำเพื่อสุขภาพ (พัง) ลองปรับเป็นสูตรหวานน้อย หรือไม่ใส่น้ำเชื่อม หรือเลือกชนิดผักผลไม้หวานน้อยแทน เช่น ส้ม แอปเปิลเขียว สับปะรด หรือ ผลไม้ตระกูลเบอรี่ หรือ ผักใบเขียวต่าง ๆ หรือลองปรับเมนูน้ำมะตูมปั่น ไอเดียเมนูใหม่ที่ดีต่อสุขภาพสุด ๆ เพราะประโยชน์ของน้ำมะตูมมีมากกว่าที่ใครหลายคนคิด ดีต่อสุขภาพและใช้ในการป้องกันโรคได้อีกด้วย
5. เครื่องปรุงบรรจุขวด
เหล่าเครื่องปรุงจำพวกซอสบรรจุขวดชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซอสมะเขือเทศ ซอสหม่าล่า ซอสบาร์บีคิว ซอสสุกี้ ฯลฯ เครื่องปรุงเหล่านี้หลายยี่ห้อด้วยกันที่พบว่า มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมในปริมาณสูง เช่น ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ มีน้ำตาลถึง 4 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 16 กรัม เลยทีเดียว ฉะนั้นควรอ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง หรือทานแต่พอเหมาะ เพื่อความอร่อยแต่สุขภาพดี
อาหารทุกชนิด หากเลือกทานให้เหมาะสม และทานแต่พอดี ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายตนเอง ย่อมเกิดประโยชน์และเป็นผลดีต่อสุขภาพ ไม่เจ็บหรือป่วยง่ายจากอาหารที่ทานเข้าไป การใส่ใจรายละเอียด และยอมเสียเวลาสักนิดเพื่ออ่านฉลากสินค้าเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาหารเพื่อสุขภาพบางชนิด อาจแฝงไปด้วยน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย โดยที่คุณอาจไม่คาดคิดมาก่อน