19 C Mumbai
Thursday 5th December 2024
การดื่มชาเขียว ประโยชน์และโทษต่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง 
By Willie Phillips

การดื่มชาเขียว ประโยชน์และโทษต่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง 

ชาเขียว คือ ใบอ่อนและลำต้นของต้นชาที่ผ่านกรรมวิธีและความร้อน เพื่อนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่ม น้ำชาเขียว และสารสกัดชาเขียวเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เนื่องจากในใบชาเขียวสรรพคุณดีต่อร่างกายหลายด้าน เพราะมีสารโพลีฟีนอล (Poluphenols) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ มีคาเฟอีน ที่ส่งผลต่อสื่อประสาทในสมอง กระตุ้นการตื่นตัวและความคิด 

สารสำคัญในชาเขียว มีอะไรบ้าง 

  • สารต้านอนุมูลอิสระ EGCG ( Epigallocatechin Gallate)  
  • กรดอะมิโน 
  • วิตามินบี 
  • วิตามินซี 
  • วิตามินอี 
  • คาเฟอีน 
  • ธิโอฟิลลีน (Theophylline)
  • สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต

ชาเขียวมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย 

  • ป้องกันโรคสมองเสื่อม
  • ป้องกันโรคมะเร็ง 
  • ป้องกันโรคเบาหวานประเภท / 
  • ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
  • ป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาติก (Rheumatic Arthritis)
  • ขับปัสสาวะ ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดี 
  • กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
  • ลดคอเลสเตอรอล
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือด
  • ช่วยให้เจริญอาหาร
  • แก้หวัด แก้ร้อนใน ขับเหงื่อ 
  • ช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย 
  • บรรเทาอาการท้องเสีย ท้องร่วง แก้บิด

ดื่มชาเขียวตอนไหนดีที่สุด

ดื่มชาเขียวให้ถูกวิธีถึงจะดีจริงไหม

จากงานวิจัย การทานชาเขียวให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย และได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากชาเขียว ควรชงชาเขียวเข้มข้น และดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละ 3-5 แก้ว เป็นประจำทุกวัน จึงจะช่วยป้องกันมะเร็งได้

ดื่มชาเขียวตอนไหนดีต่อสุขภาพ

ช่วงเวลาการดื่มชาเขียวก็สำคัญ เพราะการดื่มชาเขียวในเวลาที่ต่างกัน จะมีผลต่อการดูดซึมสารอาหารของร่างกายที่แตกต่างกันไป โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่มชาเขียวหลังอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะหากดื่มชาเขียวทันทีอาจทำให้คาเฟอีนและแทนนินในชาเขียวไปยับยั้งการดูดซึมอาหารเข้าสู่เซลล์ ทำให้ร่างกายดูดซึมอาหารได้ไม่เต็มที่ 

นอกจากนี้ ยังมีช่วงเวลาที่เหมาะในการดื่มชาเขียว คือ ช่วงเวลาก่อนนอน 2 ชั่วโมง หรือ ก่อนออกกำลังกาย  เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ชาเขียวช่วยลดไขมันได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก

กินชาเขียวทุกวันอันตรายไหม 

แม้ว่าประโยชน์ของชาเขียวดีต่อสุขภาพ แต่การดื่มชาเขียว ข้อควรระวังก็มีเช่นกัน 

  • ไม่ควรดื่มชาเขียวตอนท้องว่าง เนื่องจากชาเขียวจะขับน้ำออกจากร่างกายจนอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และผิวแห้งได้ 
  • ไม่ควรปรุงแต่งชาเขียวด้วยผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น นมข้น นมสด หรือ นมผง เพราะโปรตีนจะไปจับกับสารสำคัญในชา ทำให้สารประโยชน์ของชาเขียวที่มีต่อร่างกายเสื่อมคุณภาพ และไม่ควรเติมน้ำตาล เพราะอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้  
  • ไม่ควรดื่มชาเขียวในปริมาณมากเกินไป เพราะในชาเขียวมีสารแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้ชาเขียวสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ดังนั้น หากทานหรือดื่มชาเขียวมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ชาเขียวรูปแบบใดก็ตาม ทั้งชาเขียวแบบชง หรือ ชาเขียวพร้อมดื่ม 
  • ชาเขียวมีคาเฟอีน หากดื่มมากเกินไป จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการนอนหลับ นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับ คลื่นไส้ ท้องเสีย หัวใจเต้นเร็ว ผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคเบาหวานระมัดระวังในการดื่มชาเขียว 
  • ผู้ป่วยที่ทานยาวาร์ฟารินควรระวังการดื่มชาเขียว เพราะในชาเขียวมีวิตามินเค อาจทำให้เกิดการอุดตันตามอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะหลอดเลือดสมองและหัวใจ 
  • ชาเขียวมีสารเทนนินที่สามารถดูดซึมธาตุเหล็กในอาหาร หากดื่มชาเขียวมากเกินไป อาจก่อให้เกิดโรคโลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก 
  • หญิงตั้งครรภ์หากดื่มชาเขียว อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งบุตรได้ 
  • หญิงให้นมบุตรควรระมัดระวังการดื่มชาเขียว เพราะคาเฟอีนในชาจะส่งผ่านน้ำนมไปยังบุตรได้ 
  • No Comments
  • June 19, 2023